
กรุงเทพฯ, 1 พฤศจิกายน 2568 – Segway แบรนด์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก จัดงาน "Segway First Meet" เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ Central Village ที่ได้รับการรีโนเวทใหม่ เพื่อพบปะและสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน พร้อมเปิดตัวสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด Ninebot E3 เสริมทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์ให้มีความครบครันยิ่งขึ้น ด้วยทั้งหมด 7 โมเดล ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานอย่างครอบคลุม
กิจกรรมภายในงาน Segway First Meet
งานในครั้งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย
การทดลองขับขี่บนพื้นถนนจำลอง พร้อมเดโม่ครบทุกรุ่น
ผู้เข้าร่วมงานสามารถทดลองขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway ทุกรุ่นได้ด้วยตัวเอง เพื่อสัมผัสประสบการณ์และเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด โดย Central Village ได้จัดเตรียมพื้นที่สาธิตที่ครบครันพร้อมสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 7 โมเดลให้ทดลองขับขี่ พร้อมด้วยพื้นถนนจำลองที่ออกแบบมาเพื่อจำลองสถานการณ์จริงที่ผู้ใช้งานจะพบในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวที่หลากหลาย ทางลาดชัน ทางโค้ง และสภาพถนนที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสถึงสมรรถนะที่แท้จริงของสกู๊ตเตอร์แต่ละรุ่นอย่างครบถ้วน



ศูนย์บริการและทดลองขับขี่ ณ Central Village
หลังจากงาน Segway First Meet Central Village ที่ได้รับการรีโนเวทใหม่ ปัจจุบันมีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway ครบทุกรุ่นทั้ง 7 โมเดลให้ทดลองขับขี่ พร้อมพื้นถนนจำลองที่ออกแบบมาเพื่อจำลองสถานการณ์จริง ให้ผู้สนใจสามารถมาสัมผัสประสบการณ์การใช้งานได้อย่างเต็มที่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและควบคุมได้

เปิดตัว Ninebot E3: นิยามใหม่ของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในกลุ่ม Casual

Segway E3 ที่เปิดตัวในงานครั้งนี้ ได้รับการวางตำแหน่งเป็นโมเดลเรือธงในกลุ่ม Casual โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยและการออกแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างครบครัน
ฟีเจอร์เด่นของ Segway E3:
ระบบช่วงล่างหน้า-หลังแบบ Elastomer
ช่วงล่างรูปแบบใหม่ของ Segway ที่ใช้เทคโนโลยี Elastomer ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีน้ำหนักที่เบาและไม่ต้องบำรุงรักษา ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากพื้นผิวที่ไม่เรียบได้อย่างมีประสิทธิภาพ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบายยิ่งขึ้น แม้ในเส้นทางที่มีสภาพไม่สมบูรณ์แบบ

กลไกพับแบบใหม่ ง่ายและประหยัดพื้นที่
นวัตกรรมการพับเก็บรูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้มือปลด สามารถพับและกางได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดเพียงครั้งเดียว หลังจากพับเก็บแล้ว ตัวเครื่องจะมีลักษณะแบน (Flat) เรียบ ด้วยความสูงหลังพับที่น้อยมาก ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้สูงสุด เหมาะสำหรับการพกพาขึ้นรถสาธารณะ จัดเก็บในรถยนต์ หรือเก็บไว้ในที่ทำงานและที่พักอาศัย

หน้าจอ LED ขนาด 3 นิ้ว
หน้าจอแสดงผลแบบ LED ขนาด 3 นิ้ว นำเสนอข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างชัดเจนและครบถ้วน รวมถึงความเร็ว ระยะทาง โหมดการขับขี่ และสถานะแบตเตอรี่ อ่านง่าย มองเห็นได้ชัดเจนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

เทคโนโลยีล้ำสมัย:
- Segway Mobility Application – แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับสกู๊ตเตอร์ผ่านระบบ Bluetooth เพื่อติดตามสถานะการใช้งาน ตรวจสอบระยะทางและประวัติการเดินทาง อัพเดทซอฟต์แวร์ และปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างสะดวกผ่านสมาร์ทโฟน

- Apple Find My – รองรับเทคโนโลยี Apple Find My ที่ช่วยให้สามารถติดตามตำแหน่งของสกู๊ตเตอร์ผ่านแพลตฟอร์มของ Apple ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและป้องกันการสูญหาย สามารถค้นหาตำแหน่งได้แม้ในกรณีที่สกู๊ตเตอร์อยู่นอกระยะ Bluetooth

- Traction Control – ระบบควบคุมแรงฉุดอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะบนพื้นผิวที่ลื่นหรือไม่เรียบ ระบบจะปรับแรงบิดของมอเตอร์โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการหมุนลื่นของล้อ ช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจมากขึ้นในทุกสภาพอากาศและพื้นผิว

ไลน์อัพสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าครบครัน 7 โมเดล จำแนกตาม 4 กลุ่มการใช้งานหลัก
Segway นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยจำแนกกลุ่มตามวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างตรงจุด
1. Casual Segment – สำหรับการใช้งานที่ง่ายและเบาสบาย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Casual Segment ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานง่าย ๆ เหมาะกับการเดินทางระยะใกล้ การช้อปปิ้ง หรือการพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ โดดเด่นด้วยน้ำหนักเบา การพกพาสะดวก และใช้งานง่าย
โมเดลในกลุ่ม:
Ninebot D18W
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นของ Segway ที่เน้นความเรียบง่ายและการใช้งานที่สะดวกสบาย เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น ตัวเครื่องมีน้ำหนักที่เบา พกพาง่าย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6T7
Ninebot E2 Plus II
รุ่นที่เพิ่มประสิทธิภาพจากรุ่นก่อนหน้า มีจุดเด่นที่มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดกว่ารุ่นอื่น ทำให้เหมาะกับผู้ขับขี่ที่มีรูปร่างเล็ก และมีประสิทธิภาพด้านการพกพาที่ดีที่สุด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6TH
Ninebot E3 – โมเดลเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงในกลุ่ม Casual ที่ผสมผสานด้านสเปค ฟังก์ชันการใช้งาน กับความสะดวกสบายในการพกพาเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยสเปคที่ดีเยี่ยม แต่ยังคงมีน้ำหนักที่เบา และพัฒนาด้านการพับให้ง่ายและมีขนาดหลังพับที่สูงน้อยกว่ารุ่นอื่น ทำให้พกพาสะดวก ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะที่ดี แต่ยังเน้นความคล่องตัวสะดวกสบาย และทันสมัย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6TT
2. Daily Use Segment – ออกแบบสำหรับการเดินทางประจำวันอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Daily Use Segment ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นพาหนะหลักในการเดินทางประจำวัน เช่น การเดินทางไปทำงาน การไปโรงเรียน หรือการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ เน้นความทนทาน แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และสมรรถนะที่เชื่อถือได้ พร้อมรับมือกับการใช้งานหนักในทุกวัน
โมเดลในกลุ่ม:
Ninebot F2
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานประจำวันทั้งด้านสมรรถนะ พร้อมระบบแบตเตอรี่ที่รองรับการเดินทางระยะกลาง และยังมีฟังก์ชั่นที่รองรับการใช้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการเดินทางไปทำงานอย่างสม่ำเสมอ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6TM
Ninebot F3 – โมเดลเรือธงในกลุ่ม
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้งานประจำวัน มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่า ระยะทางการใช้งานที่ยาวนาน และความสะดวกสบายในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเดินทางทุกวัน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6TY
3. Explorer Segment – สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจและผจญภัย
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Explorer Segment ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและสำรวจเส้นทางใหม่ๆ ต้องการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถรองรับการเดินทางระยะไกลและภูมิประเทศที่หลากหลาย มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง ล้อขนาดใหญ่ และระบบกันสะเทือนที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง
โมเดลในกลุ่ม:
Ninebot MAX G3 – โมเดลเรือธงสำหรับนักสำรวจ
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการขับขี่ทางไกลให้สะดวกสบายที่สุด มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่รองรับการชาร์จคู่ได้ และชาร์จไวเพียง 3.5 ชั่วโมง ระบบช่วงล่างไฮดรอลิกหน้า-หลัง โดยด้านหลังสามารถปรับระดับได้ตามความต้องการ พร้อมบอร์ดยืนที่กว้างขวางเพื่อความสบายในการเดินทางระยะไกล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความอิสระในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางหรือเส้นทาง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6Te
4. Off-Road Segment – ออกแบบพิเศษสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Off-Road Segment ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่แบบเอ็กซ์ตรีม สามารถใช้งานได้กับเส้นทางที่ท้าทาย เช่น เส้นทางดินลูกรัง ทางขรุขระ หรือพื้นที่ที่มีสภาพไม่เรียบ ตัวเครื่องออกแบบมาให้รองรับการขับขี่ที่ลุยโดยเฉพาะ มาพร้อมมอเตอร์แรงบิดสูง ล้อขนาดใหญ่ และโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัยและกิจกรรมกลางแจ้ง
โมเดลในกลุ่ม:
Segway ZT3 Pro – โมเดลเรือธงสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดในไลน์อัพ ออกแบบตัวเครื่องมาให้รองรับการขับขี่ที่ลุยโดยเฉพาะ ด้วยมอเตอร์แรงบิดสูงพร้อม Boost Mode สำหรับเพิ่มพลังในการขับขี่ ตัวเครื่องยกสูงเพื่อรองรับพื้นถนนในหลายรูปแบบ มาพร้อมยางขนาดใหญ่แบบ All-Terrain Off-Road ที่จับถนนได้ดีเยี่ยมในทุกสภาพพื้นผิว และโครงสร้างที่แข็งแกร่งที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการผจญภัยและกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมอย่างแท้จริง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: https://hi.switchy.io/k6Tg
เกี่ยวกับ Segway

Segway เป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก ผู้นำด้านนวัตกรรมยานพาหนะไฟฟ้าส่วนบุคคล มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้การเดินทางมีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการออกแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานยุคใหม่อย่างครบถ้วน
นวัตกรรมและเทคโนโลยีเฉพาะของ Segway
Segway ภูมิใจนำเสนอฟังก์ชันใหม่และเอกสิทธิ์ทางการออกแบบที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิดการออกแบบที่เน้นประสบการณ์ผู้ใช้งานเป็นหลัก
SegRide™ และ SegRange™
เทคโนโลยีเฉพาะของ Segway ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และการจัดการพลังงาน ระบบ SegRide™ ปรับแต่งประสบการณ์การขับขี่ให้นุ่มนวลและตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ SegRange™ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่ ช่วยให้เดินทางได้ระยะทางไกลขึ้น


Segway AirLock
ระบบล็อกอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน ผู้ใช้งานสามารถล็อกและปลดล็อกสกู๊ตเตอร์ได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่ต้องใช้กุญแจแบบเดิม ช่วยป้องกันการโจรกรรมและเพิ่มความสะดวกในการใช้งานประจำวัน

Apple Find My
ระบบติดตามตำแหน่งที่ทำงานร่วมกับเครือข่าย Find My ของ Apple ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสกู๊ตเตอร์ได้อย่างรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน Find My บน iPhone, iPad หรือ Mac แม้ในกรณีที่สกู๊ตเตอร์อยู่นอกระยะ Bluetooth ก็สามารถใช้เครือข่ายของอุปกรณ์ Apple ทั่วโลกช่วยค้นหาได้

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Riding Assistant
ระบบอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจจับและปรับสมดุลโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจและควบคุมสกู๊ตเตอร์ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่หรือในสถานการณ์ที่ท้าทาย

หน้าจอสี Smart TFT พร้อมระบบแสดงแผนที่นำทางแบบ Turn-by-Turn
หน้าจอสีความละเอียดสูงที่แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน พร้อมระบบนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว (Turn-by-Turn Navigation) ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องมองที่โทรศัพท์ขณะขับขี่ เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย

ยางเคลือบสารกันรั่ว
เทคโนโลยียางพิเศษที่เคลือบด้วยสารกันรั่วภายในตัวยาง ช่วยป้องกันและซ่อมแซมรอยรั่วเล็กๆ ได้โดยอัตโนมัติ ลดโอกาสเกิดยางแบนระหว่างการใช้งาน และช่วยลดความจำเป็นในการบำรุงรักษา เพิ่มความสบายใจและความน่าเชื่อถือในการเดินทางทุกครั้ง

นวัตกรรมและเทคโนโลยีเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Segway ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการพื้นฐานในการเดินทาง แต่ยังยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความปลอดภัยที่เหนือกว่า และการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
Line: @MONOWHEEL
โทร: 02-107-2993
หมายเหตุ: ข้อมูลและรายละเอียดผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

.jpg)
.jpg)
.jpg)

