
สวัสดีครับ ถ้าเข้ามาอ่านบทความนี้กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคู่ใจคันแรกอยู่ใช่ไหมครับ? ในยุคที่การเดินทางต้องรวดเร็ว คล่องตัว แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะใช้ขี่ไปทำงาน แวะซื้อของ หรือขี่ชิล ๆ ไปเที่ยวก็สะดวกสบาย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับ Top 3 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway สำหรับมือใหม่ ในงบสบายกระเป๋า พร้อมสเปกครบครันในราคาเริ่มต้น รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะเจอสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ใช่สำหรับคุณอย่างแน่นอนครับ
ทำไมต้องเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway?

ก่อนจะไปดูแต่ละรุ่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบรนด์ Segway ถึงกลายเป็นแบรนด์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เราสรุปจุดเด่นที่ทำให้ Segway แตกต่างจากแบรนด์อื่นมาให้ 3 ข้อหลัก ๆ ครับ
- วัสดุและงานประกอบพรีเมียม
Segway ใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ไปจนถึงกระบวนการการประกอบที่จัดเก็บสายไฟอย่างเป็นระบบ ตัวเครื่องถูกออกแบบให้แข็งแรงทนทาน คอแน่น ไม่โยกง่าย มอบประสบการณ์การใช้งานที่มั่นใจได้ พร้อมการันตีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล
- มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
Segway เป็นแบรนด์ระดับโลกที่วางจำหน่ายในหลายประเทศทั่วมุมโลก จึงต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น (IP Rating), มาตรฐาน UL ด้านระบบวงจรไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และที่สำคัญคือแบตเตอรี่มาพร้อมระบบ BMS (Battery Management System) ทำหน้าที่เสมือนสมองกลอัจฉริยะ ตรวจสอบและป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร เพื่อให้คุณมั่นใจได้ทุกครั้งที่ขับขี่ ทั้งในด้านความปลอดภัยและคุณภาพที่เหนือระดับ
- ฟีเจอร์ครบครันและฟังก์ชันเทคโนโลยีสุดล้ำ
แม้จะเป็นเพียงรุ่นเริ่มต้นของ Segway ก็อัดแน่นมาพร้อมเทคโนโลยีครบครัน รองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน เพื่อให้คุณตรวจสอบสถานะหรือปรับตั้งค่า การใช้งานได้อย่างง่ายดายและเสถียร ตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน
และที่พิเศษยิ่งกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อกับ MONOWHEEL หรือตัวแทนจำหน่าย อย่างเป็นทางการคุณจะได้รับการดูแลตลอดอายุการใช้งาน พร้อมประกันศูนย์มอเตอร์ 2 ปี และแบตเตอรี่ 1 ปี ทุกคันทุกโมเดล
มาทำความรู้จักกับซีรีส์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway กันเลยครับ

ประสิทธิภาพและสมรรถนะของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway
เวลาเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Segway หลายคนอาจจะสับสนกับชื่อรุ่นต่าง ๆ อย่าง D, E, F หรือ G จริง ๆ แล้วไม่ยากครับ เพราะ Segway แบ่งซีรีส์ตามสมรรถนะและรูปแบบการใช้งานอย่างชัดเจน เรามาดูจุดเด่นและข้อแตกต่างของแต่ละซีรีส์กันเลยครับ
- ซีรีส์ D และ E เป็นรุ่นเริ่มต้น (Entry Level) โดยจุดเด่นของซีรีส์นี้เน้นความกะทัดรัด น้ำหนักเบา ราคาหมื่นต้นๆ เหมาะกับการใช้งานในเมือง ในระยะทางใกล้ ๆ
- ซีรีส์ F เป็นรุ่นระดับกลาง (Mid Tier) เพิ่มทั้งสมรรถนะและฟังก์ชันมากขึ้น รองรับการใช้งานจริงจังได้ไกลกว่าเดิม เหมาะกับคนที่ต้องการความเร็ว และระยะทางที่มากขึ้นแต่ยังคงพกพาสะดวก
- ซีรีส์ G รุ่นสมรรถนะสูง (High End) ถ้าพูดถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่แรง อึด และครบที่สุดในไลน์อัปของ Segway สมรรถนะและฟังก์ชันมาแบบจัดเต็ม และเทคโนโลยีขั้นสูง มาพร้อมแรงมอเตอร์ที่ทรงพลัง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน หรือฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง การใช้งานไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางหรือความทนทาน ซีรีส์ G ออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการ “ที่สุด” ของทั้งพลังและความสะดวกสบายครับ
สำหรับบทความนี้ เราจะโฟกัสที่ 3 รุ่นเริ่มต้นยอดนิยมอย่าง Ninebot D18W, E2 Plus II และ F2 ครับ
1. Ninebot D18W รุ่นเริ่มต้น เบา คล่องตัว ราคาสุดคุ้ม

เริ่มต้นด้วยน้องเล็กสุดของเรา Ninebot D18W สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่ ราคาคุ้ม ฟีเจอร์ครบ น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเดินทางระยะใกล้ในชีวิตประจำวัน เช่น ไปตลาดหรือซื้อของใกล้บ้าน ขับขี่ได้ไกลถึง 18 กิโลเมตรต่อรอบการชาร์จ ใช้ง่าย ไม่ง้อน้ำมัน พร้อมแอพ Segway Mobility App ตั้งค่าได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ราคาน่ารักสุด ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคันแรกครับ
ประสิทธิภาพ Ninebot D18W
- ความเร็วสูงสุด 25 กม./ชม.
- ระยะทางสูงสุดต่อชาร์จ 18 กม.
- น้ำหนักตัวเครื่อง 14.8 กก.
- ระยะเวลาในการชาร์จ 3.5 ชั่วโมง
- รองรับน้ำหนักสูงสุด 100 กิโลกรัม
จุดเด่น Ninebot D18W
- ล้อยางลม ขับนุ่มสบายบนทางเรียบ
- รองรับแอปพลิชัน Segway Mobility
- ติดอุปกรณ์เสริมเพิ่มฟังก์ชั่นในการใช้งานได้
D18W คือตัวเลือกสุดคุ้มสำหรับผู้เริ่มต้น น้ำหนักเบา เน้นความคล่องตัว ใช้งานง่าย เหมาะกับการเดินทางระยะใกล้ เช่น ไปจ่ายตลาด หรือซื้อของหน้าปากซอย สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทุกรุ่นของ Segway รองรับการเชื่อมต่อกับ Segway Mobility App ให้คุณตั้งค่าและควบคุมทุกอย่างผ่านสมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียว ไม่ว่าจะล็อก/ปลดล็อกตัวรถ ปรับความเร็วและอัตราเร่ง ตรวจสถานะแบตเตอรี่ อัปเดตเฟิร์มแวร์ รับคู่มือใช้งาน หรือเข้าศูนย์ช่วยเหลือได้ครบจบในแอพเดียว
2. Ninebot E2 Plus II : กะทัดรัด ขี่ก็ดี พกพาก็สะดวก

มากันที่รุ่นถัดไป Ninebot E2 Plus II “เล็กพริกขี้หนู” ถึงตัวจะเล็ก แต่ให้การขับขี่นุ่มนวล คล่องตัวสุดๆ ซอกซอยแคบก็ผ่านได้สบาย อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะครบถ้วน รุ่นนี้เป็น Minor Change อัปเกรดจากตระกูล E2 Series โดดเด่นด้วยดีไซน์เล็กและกะทัดรัดกว่ารุ่นอื่น ๆ ในไลน์อัป เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ส่วนสูงราว 150-160 ซม. น้ำหนักเบา พกพาง่าย แต่แรงเกินตัว เหมาะสุด ๆ สำหรับผู้ใช้รูปร่างเล็กหรือคุณผู้หญิง ไม่ว่าจะขี่ไปทำงาน แวะซื้อของ หรือออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ
ประสิทธิภาพ Ninebot E2 plus II
- ความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระยะทางต่อชาร์จ 25 กิโลเมตร/ชาร์จ
- น้ำหนักเครื่อง 16.4 กิโลกรัม
- ระยะเวลาชาร์จ 7.5 ชั่วโมง
- รองรับน้ำหนักสูงสุด 90 กิโลกรัม
จุดเด่น Ninebot E2 Plus II
- ระบบกันสะเทือนคู่หน้า ดูดซับทุกแรงกระแทก
- ยางตันด้านในกลวง ไม่รั่วซึม ไม่ต้องดูแลรักษา
- BMS ระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ
- ไฟ RGB Ambient Light ใต้ท้องเครื่อง
- ล้อยางตันภายในกลวง ไม่รั่วซึม ดูแลรักษาง่าย
- Ninebot E2 Plus II มาพร้อมหน้าจอ LED ขนาด 2.8 นิ้ว
E2 Plus II มีจุดเด่นที่ขนาดเล็ก กระทัดลัด พกพาง่าย ทำให้ประหยัดพื้นที่ในการพับเก็บ ถึงตัวเครื่องจะเล็ก แต่วัสดุใช้โครงสร้างเหล็กเกรดยานยนต์ แข็งแรง ทนทาน พร้อมระบบเบรกคู่และยางตันขนาด 8.1 นิ้ว ช่วยในการดูดซับแรงกระแทก ทำให้การขับขี่นุ่มนวลและไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย ๆ อีกทั้งจัดเต็มด้วยหน้าจอ LED ขนาด 2.8 นิ้ว มองเห็นหน้าจอโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยตลอดการเดินทาง เจ้าตัวเล็กเป็นสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับคุณผู้หญิงอย่างมากครับ
3. Ninebot F2 ฟังก์ชันครบ สมรรถนะจัดเต็ม เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ

มาที่รุ่นสุดท้ายกันเลยครับ Ninebot F2 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่รองรับ Apple Find My ซึ่งในรุ่น F2 นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานทุกด้านอย่างสมดุล ใช้งานได้ทั้งขับเล่นสบาย ๆ หรือเดินทางจริงจัง รุ่นนี้จัดเต็มด้วยฟีเจอร์ทันสมัย เช่น Traction Control, ระบบไฟเลี้ยว, Apple Find My และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ไม่ได้เน้นสมรรถนะการขับขี่ที่ถึงระดับ MAX G2 แค่รุ่น F2 ก็ได้มาครบเกือบทุกฟีเจอร์แล้วครับ Ninebot F2 ทำความเร็วสูงสุดได้ 30 กม./ชม. แถมชาร์จครั้งเดียวไปได้ไกลถึง 40 กม. เรียกว่าไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเรียน หรือเที่ยวในเมือง เจ้าตัว F2 ก็ตอบโจทย์ครบทุกการใช้งานได้ในคันเดียวครับ
ประสิทธิภาพ Ninebot F2
- ความเร็วสูงสุด 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ระยะทางต่อชาร์จ 40 กิโลเมตร/ชาร์จ
- ระยะเวลาชาร์จ 6.5 ชั่วโมง
- น้ำหนักเครื่อง 17.5 กิโลกรัม
- รองรับน้ำหนักสูงสุด 120 กิโลกรัม
จุดเด่น Ninebot F2
- รองรับฟีเจอร์ Apple Find My ผ่านแอปพลิเคชัน Segway-Ninebot
- ล้อยางลมขนาด 10 นิ้วที่มาพร้อมกับสารกันรั่วซึม (Self-Sealing Tires)
- ติดตั้งระบบไฟเลี้ยวการันตีความปลอดภัยโดยมาตรฐาน E-MARK จากยุโรป
- ระบบเบรก 2 ระบบ ระบบดิสก์เบรกที่ล้อหน้าและระบบเบรกไฟฟ้าที่ล้อหลัง
- ตัวเครื่องมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX5 และแบตเตอรี่มาตรฐานกันน้ำระดับ IPX6
- ยางลม Tubeless ที่ไม่มียางในและมีสารกันรั่วซึมมาให้จากโรงงาน ทนทานกว่าและลดกังวลเรื่องรั่วซึม
- ฟังก์ชัน Traction Control เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ Algorithm ช่วยลดการเกิดอาการล้อฟรีและประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น
Ninebot F2 คือคำตอบสำหรับคนที่มองหาความครบเครื่องในคันเดียวในราคาย่อมเยา ด้วยสมรรถนะระดับ Mid Level ใช้วัสดุคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน มอเตอร์ที่ทรงพลัง มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 376Wh ใช้งานได้สบายตลอด ทั้งวันไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ รองรับน้ำหนักผู้ขับได้ถึง 120 กก. มาตรฐานกันน้ำระดับสูง โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยวส่องสว่าง ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน, ระบบเบรก ที่นุ่มนวลและตอบสนองไว, ระบบ Traction Control ช่วยลดการ เกิดอาการล้อฟรีและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และพิเศษสุด ๆ รองรับ Apple Find My ให้คุณค้นหาสกู๊ตเตอร์คู่ใจได้ทันที ไม่ว่าจะลืมจอดไว้ที่ไหนหรือโดนขโมย พร้อมให้คุณขับขี่มั่นใจ ปลอดภัย หายห่วง พร้อมฟีเจอร์จัดเต็มในทุกเส้นทาง

ตารางเปรียบเทียบสเปค Ninebot D18W, E2 Plus II และ F2
หมายเหตุ : ระยะทางต่อชาร์จเป็นค่าที่ทดสอบในสภาวะควบคุม การใช้งานจริงอาจลดลงประมาณ 30% สกู๊ตเตอร์ทุกรุ่นรองรับน้ำหนักเกินสเปคได้ แต่อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงเล็กน้อย

เปรียบเทียบสินค้า F2 E2 Plus II และ D18W
ราคาและการวางจำหน่าย
- Ninebot D18W ราคา 14,900 บาท
- Ninebot E2 Plus II ราคา 19,900 บาท
- Ninebot F2 ราคา 25,900 บาท
Segway รุ่นไหนคือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าสำหรับคุณ
ทั้งสามรุ่นนี้เป็นตัวเลือก Entry Level ตั้งแต่ D18W ไปจนถึง Mid Tier รุ่นเริ่มต้นอย่าง F2
Segway ทั้ง 3 รุ่น มีความโดดเด่นเฉพาะตัว และถูกสร้างมาด้วยมาตรฐานงานประกอบและความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมการรับประกันและบริการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งานจาก MONOWHEEL
- ถ้าคุณต้องการความคุ้มค่าสูงสุดและเบาที่สุด : เลือก Ninebot D18W ในราคาหมื่นต้น ๆ แต่ได้เป็นเจ้าของ Segway แล้ว เหมาะกับการใช้งานระยะสั้นในชีวิตประจำวัน
- ถ้าคุรต้องการสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็ก กระทัดลัด พกพาง่าย และมีโช้คช่วยให้ขับขี่นุ่มนวล เลือก Ninebot E2 Plus II พกพาไปได้ทุกที่ พับเก็บได้สะดวกในพื้นที่จำกัด
- ถ้าคุณต้องการสมรรถนะที่สูงขึ้น ฟังก์ชันครบ และฟีเจอร์ความปลอดภัยสูงสุด : เลือก Ninebot F2 มาพร้อมกับระบบ Traction Control, ยางกันรั่ว Self-Sealing Tires, ระบบไฟเลี้ยวมาตรฐาน E-MARK, ดิสก์เบรกหน้าและเบรกไฟฟ้าหลัง ตัวเครื่องกันน้ำระดับ IPX5และแบตเตอรีกันน้ำระดับ IPX6 และรองรับ Apple Find My ที่ช่วยให้คุณตามหาสกู้อเตอร์คู่ใจในวันที่ลืมว่าจอดที่ไหน
การตัดสินใจที่ดีที่สุดคือการมาสัมผัสด้วยตัวเองครับ คุณสามารถเข้ามาทดลองขับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นนี้ได้ที่ Monowheel HQ ซอยจุฬา 28 หรือสาขาใกล้บ้าน สอบถามโปรโมชันและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา สามารถสั่งซื้อผ่าน LINE @MONOWHEEL หรือโทร. 02-107-2993 บริการทุกวัน 8:30 – 23:59 น.

MONOWHEEL HQ ซอยจุฬา 28 ถนนบรรทัดทอง
.jpg)
.jpg)
.jpg)



