[Compare] P65U or P100SU ความเหมือนที่แตกต่าง กับการใช้งานคนละรูปแบบ

ไม่ใช่ว่ารุ่นท็อปของ P Series อย่าง P100SU จะเหมาะสมและเข้ากับทุกคนได้มากกว่า P65U ซะทีเดียว เพราะสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้ถึงจะคล้ายกัน แต่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับคนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

Segway P65U
Segway P100SU
October 14, 2022

Segway P Series Premium KickScooter รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Segway-Ninebot โดยในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ P65U และ P100SU และถึงดีไซน์ทั้งสองรุ่นแทบจะคล้ายกัน 100 % แต่โดยรวมไม่ได้เหมือนกันหมดซะทีเดียว ทั้งสองรุ่นมีจุดหมายในการใช้งานที่แตกต่างกันชัดเจน ทั้งสองรุ่นจะต่างกันอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร มาดูไปพร้อม ๆ กัน

ความแตกต่างด้านดีไซน์

อย่างที่บอกไปว่าดีไซน์ของทั้งสองรุ่นคล้ายกันมาก แทบจะลอกลายมาเลยทีเดียว ความต่างแรกที่มองเห็นคงจะเป็น ‘สี’ แต่ก็ไม่ใช่สีของทั้งตัวเครื่อง แต่เป็นกรอบสีเล็ก ๆ ที่ครอบรูสำหรับใส่เกลียวล็อกคอบริเวณแท่นพักเท้าด้านหลังของแท่นเหยียบ โดยของ P65U จะเป็นกรอบสีส้ม P100SU จะเป็นกรอบสีแดง ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนล้วน ๆ ว่าชอบสีอะไร แต่ผมชอบสีแดงนะ 

สีของ P65U ออกสีส้ม
รวมถึงสีของช่องชาร์จด้วย
ส่วนของ P100SU จะออกสีแดงสด ต่างกันชัดเจนมาก
และสีของช่องชาร์จก็แตกต่างเช่นเดียวกัน

ความต่างเล็ก ๆ อย่างต่อไปคือเบรกมือ อย่างที่รู้กันว่า P65U มีแค่ดิสก์เบรกหน้าทำให้มีเบรกมือแค่ฝั่งซ้ายฝั่งเดียวและจะมีสายเบรกแค่สองเส้น แต่ P100SU มีทั้งดิสก์เบรกหน้าและดิสก์เบรกหลังทำให้มีเบรกมือทั้งสองฝั่งและมีสายเบรก 3 เส้น แถมเส้นที่เพิ่มมาสีแดงซะด้วย 

ส่วนของเบรกมือ P65U ที่มีดิสก์เบรกแค่ชิ้นเดียวที่ล้อหน้า จึงมีเบรกมือแค่ฝั่งเดียวคือฝั่งซ้าย
P100SU ที่มีดิสก์เบรกทั้งล้อหน้าและล้อหลังจึงมีเบรกมือสองฝั่ง แถมฝั่งขวาที่เพิ่มมาเป็นสายสีแดงซะด้วย ตัดกับสีดำสวยมาก

อย่างสุดท้ายจะเป็นดีไซน์ตรงช่วงล้อ เพราะ P100SU มีโช้คอย่าง Torsion Bar ที่ P65U ไม่มี ทำให้ดีไซน์ตรงแกนที่มาล็อกล้อไว้รูปทรงไม่เหมือนกัน ของ P65U จะมีดีไซน์เหมืแนกับสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นที่ไม่มีโช้คอย่าง F Series หรือ D Series นั่นเอง

ล้อหน้าของ P65U ที่ไม่มีช่วงล่างดีไซน์จึงเหมือนกับ D Series หรือ F Series นั่นเอง
และนี่คือออ หน้าตาของ Torsion Bar ช่วงล่างของเจ้า P100SU นั่นเอง

นอกจากนี้การที่ P100SU มีโช้คทำให้ตัวเครื่องมีระยะห่างจากพื้นที่สูงกว่า P65U อีกด้วย ความต่างหลัก ๆ ในด้านดีไซน์มีเพียงเท่านี้เท่านั้นสำหรับ P Series ทั้งสองรุ่น ในส่วนต่อไปเราจะมาดูความต่างในด้านของฟีเจอร์การใช้งานกันบ้างว่ามีอะไรที่แตกต่างกัน

ความแตกต่างด้านฟีเจอร์

อย่างแรกเลยขอยกให้เรื่อง ‘เบรก’ P65U มีเพียง 2 เบรกเท่านั้นเป็นดิสก์เบรกล้อหน้าและเบรกไฟฟ้าที่ล้อหลัง แต่สำหรับ P100SU เป็นรุ่นแรกเลยที่มีเบรกถึง 3 เบรก แม้แต่ GT Series ยังมีแค่ 2 เบรก แต่จะเทียบแค่นั้นก็ไม่ได้เพราะเบรกทั้ง 2 เบรกของ GT Series เป็นไฮดรอลิก ดิสก์เบรก แถมขนาดจานเบรกใหญ่กว่าอีก กลับมาเข้าเรื่องต่อ เบรกของ P100SU มีทั้งหมด 3 เบรก ประกอบด้วย ดิสก์เบรกล้อหน้า ดิสก์เบรกล้อหลัง และเบรกไฟฟ้าที่ล้อหลัง ด้วยความแรงที่เพิ่มขึ้น กำลังเบรกจึงควรเพิ่มตามทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ P100SU จะมี 3 เบรก แถมเบรกไฟฟ้ายังปรับความแรงได้อีกด้วย

ล้อหลังของ P65U ที่มีแค่เบรกไฟฟ้า
กับ P100SU ที่มีดิสก์เบรกตัวที่สอง กำลังเบรกต่างกันชัดเจน

และแน่นอนว่าเรื่อง ‘โช้ค’ หรือระบบกันสั่นสะเทือนช่วงล่าง ซึ่ง P65U จะไม่มีแต่ P100SU จะมีเป็นระบบ Torsion Bar ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เป็นโช้คที่ยุบตัวได้มากถึง 1.5 นิ้ว ดูดซับแรงกระแทกแบบมันส์ ๆ ไปเลย ทั้งเบรกทั้งช่วงล่างนี้ไม่ว่าจะขับลุยแบบไหน P100SU ก็พร้อมลุยแน่นอน ตามรูปด้านบนเลย

และอย่างสุดท้ายที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือ ‘Projection Lamp’ หรือไฟปีกท้ายนั่นเอง เรียกได้ว่าฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์พิเศษเฉพาะ P100SU เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นรุ่นแรกเลยที่มี และถึงฟีเจอร์นี้จะไม่ใช่ฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับการขับขี่เลยแม้แต่น้อยก็ตาม แต่มันกลับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้คนเลือกซื้อ P100SU เลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุผลเดียวเลยคือมัน ‘เท่’ ขอบคุณครับ

เท่ไม่เท่ ดูเอา!

ด้านฟีเจอร์การใช้งานก็มีประมาณนี้นะครับ หลังจากดูความแตกต่างของทั้งสองรุ่นในด้านนี้แล้ว หลายคนอาจจะเริ่มเห็นภาพกันแล้วว่ารุ่นไหนเหมาะกับตัวเอง หรือตัวเองชอบรุ่นไหนมากกว่ากัน และก็มาถึงจุดแตกต่างพาร์ทสุดท้ายแล้ว ซึ่งก็คือพาร์ทของสเปคนั่นเอง พาร์ทนี้เราจะเอาตัวเลขเพียว ๆ มาคุยกันเลยนะครับ 

ความแตกต่างด้านสเปค

ข้อแตกต่างด้านสเปคข้อที่คนให้ความสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘ความเร็ว’ นั่นเอง ถึงแม้ทั้งสองรุ่นจะมีความเร็วสูงสุดที่ต่างกันเพียง 8 กม/ชม. เท่านั้น ตัวเลขอาจจะฟังดูน้อยแต่บอกเลยว่าหากได้ลองขับจริงจะพบกับความต่างที่ชัดเจนมาก ๆ เพราะกำลังมอเตอร์ของ P65U สูงสุดเพียง 1,080 วัตต์ แต่กำลังมอเตอร์สูงสุดของ P100SU สูงสุดถึง 1,350 วัตต์ แทบจะเทียบเท่ากำลังมอเตอร์เริ่มต้นของ GT1 เลย ความแตกต่าง 270 วัตต์เห็นผลชัดเจนแน่นอนครับ แต่ด้วยความที่ P100SU ทั้งมอเตอร์แรงกว่า แบตเตอรี่เยอะกว่า ทำให้น้ำหนักมากกว่าด้วยเช่นกัน โดย P100SU หนัก 32.9 กก. แต่ P65U หนักเพียง 26.9 กก. 

ความแตกต่างด้านสเปคข้อต่อไป ข้อนี้ค่อนข้างแตกต่างกันชัดเจน ซึ่งก็ถูกใบ้ด้วยชื่อรุ่นมาแล้วนั่นก็คือ ‘ระยะทางวิ่งต่อชาร์จนั่นเอง’ P65U วิ่งได้ 65  กม.ต่อชาร์จ P100SU วิ่งได้ 100 กม. ต่อชาร์จ จุดนี้แตกต่างกันชัดเจน ด้วยระยะทางวิ่งต่อชาร์จที่ต่างกันถึง 35 กม. การขับ P100SU ครั้งเดียวเท่ากับคุณขับ P65U จนแบตหมด ต่อด้วยขับ D38U อีกเครื่องเลย ด้วยการชาร์จแค่ครั้งเดียว แถมใช้เวลาแค่ 7 ชม.ในการชาร์จเท่านั้น แต่ P65U ก็ไม่น้อยหน้าเพราะใช้เวลาชาร์จเพียง 4 ชม. หากนำมาคิดแบบง่าย ๆ ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ 1 ชม. P65U จะดีกว่า 2 ชม. ซึ่งจุดนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานเลยครับ

และนี้เป็นความแตกต่างด้านสเปคแบบคร่าว ๆ นะครับ จริง ๆ แล้วยังมีสเปคที่ต่างกันอย่างยิบย่อยกว่านี้เช่นเปอร์เซนต์การขึ้นทางขึ้นที่ชันที่ P65U ขึ้นได้ 22% แต่ P100SU ขึ้นได้ 23% ต่างกันเพียงเปอร์เซนต์เดียว หรือขนาดแบตเตอรี่ที่ P65U ขนาด 12,000 mAh และ P100SU ขนาด 23,000 mAh นะครับ และทั้งหมดนี้คือความแตกต่างทั้งหมดทั้ง 3 พาร์ทของ P65U และ P100SU ครับ

มาถึงหัวข้อสุดท้ายแล้วนะครับ หัวข้อนี้ MONOWHEEL ขอรับบทผู้ช่วยคิดนะครับว่าใครเหมาะกับรุ่นไหนนะครับ เชื่อว่าทุกคนหลังอ่านจุดแตกต่างเสร็จอาจจะมีรุ่นที่ชอบอยู่ในใจแล้วก็ได้ แต่หากยังคิดไม่ตก MONOWHEEL จะช่วยคิดเองครับ ฮ่า เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจ ถึงแม้ในความเป็นจริงจะไม่มีกำหนดว่าใครต้องใช้รุ่นไหน แต่ถ้าเราดูการใช้งานของเรา เราอาจจะเลือกรุ่นที่พอดีกับเรามากที่สุดได้นั่นเอง 

ใคร รุ่นไหน อย่างไร 

อย่างแรกเลยที่คุณควรตอบได้คือ คุณเอาไปใช้ทำอะไร ถ้าคุณแค่ใช้ขับซื้อของใกล้ ๆ ขับในชีวิตประจำวันในเมืองในถนนทั่วไป P65U อาจจะเพียงพอแล้ว ยิ่งหากเส้นทางที่คุณใช้เจ้าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เป็นทางต่างระดับหรือตกยกเครื่องเพื่อขึ้นสะพานลอย P65U สบายกว่าแน่นอน เพราะน้ำหนักที่น้อยกว่าถึง 6 กก. ซึ่งไม่ใช่น้อย ๆ เลย น้ำหนัก 26.9 กก.อาจะอยู่ในข่ายที่ยังพอยกไปไหนมาไหนได้ และถึงแม้ถนนในเมืองของประเทศไทยจะค่อนข้างระห่ำ แต่ความนุ่มของเจ้ายาง SegPower CrossSeason จะช่วยบรรเทาคุณได้แน่นอน และอีกอย่างเลยคือฟีเจอร์หลัก ๆ ในการใช้งานอย่าง ไฟเลี้ยว หรือ NFC Card แค่ P65U ก็มีมาให้แล้ว แถมความเร็วสูงสุด 40 กม/ชม. และระยะทาง 65 กม.ต่อชาร์จก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย

แต่ครับแต่ ถ้าเส้นทางที่คุณใช้มีความลูกรังนิด ๆ ออฟโรดหน่อย ๆ Torsion Bar ของ P100SU ช่วยคุณได้มากแน่นอน หรือแม้แค่คุณเป็นคนชอบความเร็วหรือชอบการขับขี่ที่มันส์ ๆ รุ่นนี้ตอบโจทย์กว่าแน่นอน เพราะ P100SU ถูกออกแบบมาให้ใช้งานทั้งในเมืองและใช้งานแบบ Performance ไหนจะเบรกสุดทรงพลังเพราะมีทั้ง 3 เบรก และเอาเข้าจริงด้วยสเปคระดับนี้ P100SU แทบจะเข้าข่ายของ Performance Scooter ได้เลย แถมวิ่งได้ไกลตั้ง 100 กม.ต่อชาร์จ เป็นตัวเลขที่สุดยอดมาก ๆ และสิ่งที่ไม่ต้องมีก็ได้แต่มีก็ดีกว่าแน่นอนอย่างไฟปีกท้าย ‘Projection Lamp’ ที่สุดจะเท่เลยเวลาขับขี่ เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสำหรับบางคนแน่นอน ๆ 

สรุปแบบสั้นลงมาอีกนะครับ P65U ฟีเจอร์หลัก ๆ ที่สำคัญมีครบ สเปคไม่ได้แย่ น้ำหนักเบากว่า ส่วน P100SU แพงกว่า แต่ก็แรงกว่า ครบเครื่องมากกว่า และ + ไฟปีกท้ายสุดเท่เข้าไปนั่นเองครับ 

หวังว่าบทความนี้จะประกอบการตัดสินใจให้ทุกคนได้มากขึ้น ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบและขอบคุณที่เอ็นดูเจ้า P65U และ P100SU นะครับ ส่วนใครที่คิดว่า P Series ยังไม่โดนใจ ยังไม่ตอบโจทย์ เรายังมีสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าอีกนับ 10 รุ่นให้เลือกกันเลย ลองเลือกรุ่นที่ชอบแล้วมาลองสัมผัสตัวจริงประกอบไปด้วยจะดีที่สุดครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าครับ สวัสดีครับ 

บทความที่น่าสนใจ

Interesting articles
Back to top